วันเสาร์, ธันวาคม 31, 2548

วันหยุดเหงาๆ

วันหยุดไม่ได้กลับบ้าน ไม่ได้เที่ยวไหน อยู่แต่ในห้อง คนเดียว มองไปตามถนน รถก็ไม่มี เล่นเน็ท ก็ไม่เจอใครในเน็ทเลย

วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 01, 2548

ปัญหาที่แม้คนทายยังไม่เข้าใจ

เมื่อวานขณะที่ตูนั่งในกลุ่มเพื่อน 4-5 คน บนม้าหินอ่อน เพื่อพักผ่อนรอเวลาเรียน

ในท่ามกลางทัศนวิสัยอันดูวุ่นวายวกวน ของกลุ่มคนที่เดินผ่านไป
ในที่นั้นก็ยังมีทัศนคติที่ว้าวุ่นสับสน ของกลุ่มคนที่นั่งจดจ่ออย่างตั้งใจ
ระบบกลไกลนำร่องอัติโนมัติของกมลสันดานของชายชาตินักหลี
ได้เริ่มสั่งการเซนเซอร์ตรวจจับกระแสความเซ็กซี่อีกครั้ง
อวัยวะอันเป็นหน้าต่างของจิตใจทุกคู่ล้วนเพ่งเล็ง ทำท่าเขม็งไปที่สาวๆ
แล้วประมวลผลความคิดอันโฉ่ฉาวออกมาเป็นเสียงซุบซิบวิพากย์วิจารณ์ไปต่างๆนานา
สาวบางคนคงอายแล้วรีบหนีหน้า แต่พวกตูสรวลเสเฮฮาและร่าเริง...

เข้าเรื่องดีกว่า...

จู่ๆก็มีพี่เก่ง ที่เป็นคนไม่เบ่งแม้จะเป็นตำรวจ ก็เดินสำรวจเข้ามาร่วมวงด้วย
โอ้... ไม่นะพระเจ้าช่วย นำปัญหาที่(พี่เก่ง)คิดว่าไม่กล้วยมาทาย...

.................................

คือ...คำถามมีอยู่ประมาณว่า...

มีคนอยู่ 4 คน คือ นาย ก,นาย ข,นาย ค และ นาย ง
วันหนึ่งนาย ก ข และ ค อยากจะร่วมหุ้นซื้อส้ม 1 โล ซึ่งราคาโลละ 30 บาท
จึงวานให้นาย ง ไปซื้อมาให้ โดยออกทุนกันคนละ 10 บาท 3 คนก็เป็น 30 บาท

เผอิญนาย ง ซี้กะแม่ค้า เลยซื้อมาได้ในราคาแค่ 25 บาทเท่านั้น
และนาย ง ก็ แอบจิ๊กเงิน 2 บาท จากเงินที่เหลือมา แล้วคืน เงินให้ กับ ก ข และ ค
คนละบาท

ถ้ากลับไปคิดใหม่ว่า... ทั้ง ก ข และ ค ตอนแรก จ่ายไป 10 บาท
แต่ได้กลับคืนมาคนละบาท ก็จะคิดได้ว่า 3 คนนี้ เสียเงินไป 9 บาท

ถ้าเอามาคูณ 3 ก็จะเป็นเงินรวมทั้งสามคนได้ 27 บาท
และรวมกับที่นาย ง มันจิ๊กไป 2 บาท
รวมแล้วก็เป็น 29 บาท
แต่ตอนแรก มีเงินรวมทั้งหมด 30 บาท

ถามว่า เงินหายไปไหน 1 บาท?

.......................................

ตูคิดออก จึงบอกว่าคิดได้แล้ว (แน่นอน หลายคนที่มาอ่าน ก็คงคิดได้แล้ว)
พี่เก่งบอกให้อุบเอาไว้ก่อน ตูก็ร๊อรอ ไม่มีคนตอบได้ซะที
ตูเลยเฉลยให้พี่เก่ง ถึงความเป็นไปของโจทย์ข้อนี้
แต่ด้วยความที่ตูคงเป็นคนที่สื่อความหมายให้ใครเข้าใจยาก
พี่เก่งจึงไม่เข้าใจ และเฉลยมาอย่างไม่ถูกต้องนัก ว่าตังค์ 1 บาท นั้นอยู่ที่แม่ค้า...
แต่พูดไปพูดมาก็บอกว่าว่าจริงๆแล้ว ทั้งสามคน ออกเงินคนละ 8.33... บาท

ซึ่ง เห็นได้ชัดว่า คนทายนั้นไม่เข้าใจ....
ตูเสียอารมณ์อย่างแรง ที่คนทายก็ไม่เข้าใจในปัญหา ดันเอาถามอีก
แหงะไปมองเพื่อนๆ ที่นั่งด้วยทั้งหมด ก็ยังไม่มีใครเข้าใจ...
ตูจึงตัดสินใจ ที่จะอธิบายให้กับทุกคนฟัง

ในขณะที่ตูพยายามอธิบายอยู่นั้น ก็มีสาวแม่เจ้าว้อยสุดเลิศลอยเดินผ่าน
เหมือนชะตาเป็นใจจะต้องการ ให้พวกเราได้บริหารสายตาอีกครั้งนึง

แล้วทั้งหมดทั้งปวงแห่งมวลมนุษย์ที่นั่งอยู่ในวงม้าหินอ่อนนี้(ไม่เว้นแม้กระทั่งตู)

ก็หยุดความสนใจในคำอธิบายของตู....
หันมาจูฮุกกรูกะสาวแม่เจ้าว้อยอนงค์นางนี้แทน...

.......

อยากบอกว่าเคืองมาก ตูตัดใจและปลง
ให้คนเหล่านั้นมันเง็งมันงง ฝังลงในหัวอย่างงั้น
ดั่งเม็ดกรวดที่ฝังอยู่ในม้าหินอ่อนแห่งนั้นนั่นแหละ

หลังจากนั้น พักนึง พวกก็กลับมางง กับคำถามพิศวงนี้กันอีก
ตูไม่เอาล่ะขอหลีก และขอปลีกไม่ชี้แจงอะไรอีกแล้ว

เคือง....................



ปล. วันนี้สำนวนดูลิเกไงไม่รู้แฮะ...ถ้าใครคิดไม่ออก ก็เอ็มเอสเอ็นมาฟังเฉลยละกัน