วันอังคาร, พฤษภาคม 31, 2548

จะอัพอะไรดีวะ

คือ มันมีอะไรที่อยากจะอัพมากเกิน
พอคิดจะอัพ ไอ้ความจำเหล่านั้นมันหายไปไหนวะ
แถม... เมื่ออาทิตย์ก่อน นั่งอัพอยู่ดีๆ ยังไม่ทันได้เซฟ ไฟแม่งดับ ดับทั้งซอย วันนี้ก็หมดอารมณ์อัพไปเลย

คอม..........
     ปีนี้ไม่รู้เป็นไร คอมเจ๊งนู่นเจ๊งนี่ สงสัยต้องทำบุญให้คอมมันแล้วมั้ง
---ก่อนนั้น : ซีดีรอมเสีย เลยยืมของพี่มาใช้ เปลี่ยน มอนิเตอร์ จาก CRT 15" เป็น CRT 17" (จอโค้ง)
---เดือนมีนา : เปลี่ยนการ์ดจอเพราะการ์ดจอเน่า เพิ่มแรม เปลี่ยนซีดีรอมเป็นคอมโบ(คืนซีดีรอมให้พี่ไป)
---เดือนที่ผ่านมา : ฮาร์ดดิสก์เสีย ต้องเปลี่ยนฮาร์ดดิกส์ และสลักล็อกฮีทซิ๊งค์กะซีพียูหักแต่ซ่อมด้วยกาวตราช้าง
---วันนี้: แรมแผงเก่าพัง...
สรุป: เหลือสิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนคือ ซีพียู เมนบอร์ด เคส ซาวน์การ์ด เมาส์-คีย์บอร์ด

วันเสาร์....
     ไปรายงานตัวเข้าเรียนภาคค่ำ กำ ห่า ในกำหนดการแม่งไม่บอกให้เอาอะไรไป นึกว่าใช้บัตรผู้สมัครไปอย่างเดียวก็ได้ รูปเริบ ไม่ได้เอาไปดิ เพราะรูปก็ใช้ตอนยื่นใบสมัครไปแล้ว พอไปถึง ต้องใช้รูป แม่งต้องถ่ายรูปด่วน จ่ายไป 180 รูปด่วนห่าไรวะ 180 ไอ้ชุดแรก ได้รูปใหญ่กว่าด้วย จ่ายแค่ 120 ทั้งสองชุด ตูดคิดว่าแพงชิบหาย ไปถ่ายตู้สติ๊กเกอร์มาติดมันยังถูกกว่าแถมไม่ต้องทากาวด้วย เวงห่า หน้าเลือด... พอเส็ดแล้ว ก็หวังว่าจะเจอปาฏิหารย์อะไรบางอย่าง ก็ไปสวน จจ แต่ไม่เกิดปาฏิหารย์ ห่า เดินเข้าไป ไม่ถึง 20 ก้าว แม่ง กูออกดีกว่า คนเยอะร้อนฉิบหาย คิดว่า ไปดูตาวอร์ดีกว่า อยากดู พอนั่งๆไปคิดไรเพลินๆ เจอร้าน เอ็มเคหรือไงนี่แหละ แม่งเบลอ ลงรถเมย์ คิดว่าถึงเมเจอร์รัชฯแล้ว ตามประสาคนบ้านนอก เออ กูเดินเอาก็ได้วะ เดินโทคุยกับไอ้ปี ถึงความหน้าแตก ไอ้ปรีมันรู้ว่าตูจะไปดูตาวอร์ และมันรู้ว่าตูไม่อยากให้ใครเล่าหนังก่อนได้ดู มันจะแกล้งเล่า แต่ก็รอดตัว เดินไปเรื่อย ผ่านป้ายรถเมย์ไป 2-3 ป้ายจนถึง เออ...กูถึงแล้ว เลยไปดู ไปดูคนเดียว ครั้งแรก ที่เมเจอร์รัชโยธิน เจอสาวสวยมากมาย แต่ควงหนุ่ม(และเสี่ย) มาด้วยทั้งนั้น... ขาออกเจอพวกพริ๊ตตี้มองหน้า จะเดินเสนอสินค้าห่าอะไรต่างๆ ที่ตูไม่เข้าใจที่จะหยั่งถึงมัน ตูเมินพริ๊ตตี้ด้วยสีหน้าอันหยิ่งผยอง แม้ว่าสาวเจ้าจะโป๊ะแป้งหนาๆซะจนสวยปานใด ตูก็ไม่สนเฟ้ย แต่กลัวคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ชิบ คิดมากๆๆไปหรือเปล่าหว่า
เดิน
     เมื่อวานชวนไอ้อัดเดินเดอะมอล์เพื่อไปดูราคามือถือ ห่าไรไม่รู้ ทำไมเหมือนไอ้อัดพูดออะไรมา ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เจออะไรติดใจ อยากแวะดู ไอ้อัดก็สะกิดให้ไปต่อ แต่ตู ต้องแวะดูเสื้อผ้ากับไอ้อัดหลายจุดมาก ไอ้อัดมันชอดูเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย อะไรเทือกนี้เป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ดี ที่ไอ้อัดมันพาไปถามเรื่องมือถือ เพราะตูเป็นโรคไม่ถูกกะร้านมือถือไม่รู้จะคุยกะคนขายยังไง ระหว่างเดิน ชักรู้สึก อยากจะหาคนที่เดินกับเรา แล้วสนใจในสิ่งๆเดียวกะเราว่ะ เห็นเปียโนวางอ่อยให้ท่า เหมือนจะชวนคนที่เดินผ่านไปกดเล่น แม่งอยากไปกด แต่อายเค้าว่ะ เออ...สักวัน ตูจะซื้อมัน หลังจากที่มีบ้านกะรถแล้ว สักวัน สักวัน
สรุป...เหมือนไอ้อัดแก้แค้น คราวก่อน มาเดินกับมัน มันจะมาซื้อของแต่ไม่ได้อะไรเลย แต่ตูกลับได้ซื้อ คราวนี้ ตูไม่ได้ซื้ออะไร แต่ไอ้อัดหิ้วของเต็มเลย

แอนตี้ชาเขียว
     วันก่อน(วันไหนไม่รู้)ไปเซเว่น ตูคิดว่าอยากจะซื้อชาเขียวมากิน(และหวังเงินล้านอยู่เหมือนกัน) แม่งชักจะมากไปแล้ว เห็นตาลุงคนนึง หน้าตาแกควรจะไปกินกระทิงแดงสุดๆ แต่พ่อแก เดินเข้าไปคว้าชาเขียวมา และก็มีป้าคนหนึ่งแต่งชุดข้าราชการ และหน้าตาข้าราชการสุดๆ เดินมาหยิบชาเขียวเช่นกัน โอย มีแต่คนซื้อชาเขียว โอย นี่ตูจะกลายเป็นคนแบบ ตาลุง กะป้าพวกนั้นเรอะ จึงคิดว่า การซื้อชาเขียวมันเห่ยสิ้นดี ไม่เอาไม่เท่.......ตูเปลี่ยนใจที่จะซื้อชาเขียว กูซื้อนมพาสเจอร์ไรท์กินดีกว่า แม่งมีประโยชน์กว่ากันเยอะ.... แม่งเซ็ง เดี๋ยวนี้ชาเขียวมันกลายเป็นหวยที่ดื่มได้ไปแล้วรึ...

วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 05, 2548

ทำงานนอกสถานที่

     ตั้งแต่ผ่านมา 2 อาทิตย์แล้ว ที่ต้องไปนั่งทำงาน site ลูกค้า บริษัทอะไร ไม่บอก เป็นความลับ ไม่เหนื่อยนะ แต่ทรมานกับการเดินทางทุกวัน ที่ต้องนั่งรถถึง 4 ต่อแรกรถเมย์ และ 2 ใน 4 เที่ยว ต้องเผชิญกับรถที่ไม่มีแอร์ แต่รถติดและโคตรเหม็นควัน หายใจไม่ออก จะตายให้ได้เลย เกลียดกรุงเทพเพราะรถติดโว้ย และ 1ใน 4 เที่ยวนั่ง BTS จากหมอชิต ไปพระโขนง ซึ่งอีกป้ายเดียวก็สุดสายแล้ว เคยรู้สึกเห็นภาพหลอน คิดว่ามีกระเป๋ารถเมย์เดินเคาะกระป๋องตังค์เดินมาเก็บตังค์ใน BTS!? เบลอ มึน...
     หลังจากมาทำงาน Site ลูกค้า พบร้านอาหารตามสั่งที่สุดยอดอยู่ร้านนึง หมูกรอบร้านนี้อร่อยโคตรๆ ไม่ว่าจะสั่งคะน้าหมูกรอบหรือกระเพราะหมูกรอบก็อร่อยทั้งนั้น ถ้าหมดงานจะได้มากินอีกไหมนะ
     วันพุธขึ้นลิฟท์ไปพร้อม PR บริษัท(น่ารักด้วย แต่เสียงห้าว)เค้าถามว่า เค้าจะขายรถ สนใจมั้ย ตอบเค้าไปว่า ช่วงนี้ผมจนครับ(จริงๆแล้วตูจนมาตั้งแต่กำเนิด)... เค้าบอกว่าไม่เชื่อ หน้าตาแบบนี้นะ..จน
     จริงๆแล้วมาทำงานบริษัท ในภาพจน์ที่เจ้านายบอกกับทางบริษัทนี้ว่า โปรแกรมเมอร์ที่ส่งไปทำงาน มีประสบการณ์ ASP.Net มา 1 ปีแล้ว (ซึ่งจริงๆแล้วครึ่งปี) และจบปริญญาตรี ซึ่งจริงๆแล้วตูยังเรียนไม่จบ (เงินเดือนเลยน้อย และเลยจน) ตูหนักใจ ที่ต้องปิดบังความกระจอกของตัวเองไว้ แต่เพื่อเงินและเพื่อให้เจ้านายขึ้นเงินเดือน เจ้านายบอกว่าค่าตัวของตูในการไปทำงานครั้งนี้ ในใบเสนอราคาให้ลูกค้าในโปรเจ็คนี้ วันละตั้ง 3000 ตอนนี้ทำมา 2 อาทิตย์แล้วก็คง 3 หมื่นแล้วสินะ แต่เงินที่ได้จริงๆที่ตกมาถึงตูคงได้ไม่เท่าไหร่หรอกมั้ง ทนๆทำไปเพื่อขึ้นเงินเดือน แล้วก็เก็บเงินเรียนต่อให้จบ จะได้เลิกใช้เงินแม่ซะที
     แต่โปรแกรมเมอร์บริษัทอื่น ที่เข้ามาทำงานที่เดียวกันนี่สิ ขับรถส่วนตัวมากัน ท่าทางดูดีกันทั้งนั้นเลย ส่วนตู...นั่งรถเมย์..


ปล.วันนี้เหงาๆๆๆๆๆชิบ ช่างมัน ต้องทนกับงาน ต้องทนกับความเหงา ทำไมต้องทนกับการมีชีวิตไม่รู้ แต่คนอื่นๆเค้าก็เป็นกัน เค้าก็ทนกันได้ เกิดมามีสิ่งที่ได้ดั่งใจไปหมดมันก็คุณหนูเกิ๊น... เรามันจน ไม่ใช่คุณหนู
ปล2.ถ้าคนที่เคยเป็นแฟนฉันมาอ่าน... อย่าคิดได้ใจว่าว่าฉันเหงาแล้วจะต้องการเธอคืนกลับ จะไม่มีวันกลับไปอีกแล้ว ถ้าอ่านแล้วไม่พอใจ คราวหน้าอย่ามาอ่าน