วันพุธ, มีนาคม 23, 2548

นาฬิกาของฉัน

.........
นาฬิกาของคนอื่น...ใส่แล้วเท่
นาฬิกาของฉัน...ใส่แล้วไม่เข้ากะหน้าตาคนใส่!!
.........
นาฬิกาของคนอื่น...มีแสงไฟไว้ดูในที่มืด
นาฬิกาของฉัน...ไม่มีแสงแต่ก็ดูได้ในที่มืด!!
.........
นาฬิกาของคนอื่น...เวลาจะเดินไปเรื่อยๆ ตามเข็มหรือตัวเลข
นาฬิกาของฉัน...เวลาจะหยุดที่เดิม ตามที่ใจฉันปรารถนา
.........
นาฬิกาของคนอื่น...จะบอกเวลาเป็นตัวเลข บ้างก็มีเสียงดังปลุกเตือน
นาฬิกาของฉัน...จะบอกเวลาเป็นภาพอันสวยงาม มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะดังออกมา
.........

ทุกครั้งที่ฉันดูเวลาจากนาฬิกาของฉัน...ทุกครั้งที่นาฬิกาบอกเวลามานั้น มันคือเวลาแห่งความสุข
.......
ปล. เพี้ยนไปแล้วตู ศรีธัญญาอยู่ห่างจากที่ๆตูอยู่ ประมาณ 3 โล ไปอยู่นั่นดีไหมหว่า

วันศุกร์, มีนาคม 18, 2548

สัปดาห์วิปโยค

ไม่สบาย
    ตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว จนถึงศุกร์นี้ ไม่สบายตั้งสองครั้ง สงสัยเป็นเพราะนอนเปิดพัดลมโกรกหน้าแหง แต่ถ้าไม่เปิดแม่งก็ร้อน ไม่มีแอร์นิ ครั้งแรก เจ็บคอ แล้วปวดหัว มีไข้ด้วย เลยไปหาหมอ เพื่อจะขอใบรับรองแพทย์มาลางาน เพราะไปไม่ไหวอ่ะ ก็ไปช่วงที่ไข้ลด หมอวัดไข้ได้แค่ 38 ซึ่งตัวไม่ร้อนง่ะ หมอเลยตรวจจมูกพบว่าโพรงจมูกบวม แล้วเซ็นในใบรับรองแพทย์ว่า คออักเสบ กำๆๆ ลำพังแค่คออักเสบตูยังทำงานได้นะ แต่ที่ตูไปหาหมอเพราะตูปวดหัว ปวดตามตัว แล้วที่สำคัญ ถ้าเป็นช่วงที่ตูมีไข้ ตูจะไปหาหมอไหวมั้ย และแล้วก็จ่ายตังค์หมอในฐานโทษที่ไม่สบาย ส่วนไม่สบายครั้งที่สองนี่ กินยาเก่าเอา แต่ตอนนี้ ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร ปวดหัว มึนหัวตลอด เจ็บคอ

อกหัก
    ในช่วงศุกร์ที่แล้ว จนถึงศุกร์นี้ อกหักคับ แล้วก็เครียดอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับความรัก ตอนนี้อยู่ในความก้ำกึ่งระหว่างความเชื่อในบางอย่างซึ่งคืออะไรที่ไม่สามารถอธิบายได้ กับสิ่งที่พิสูจน์ได้ด้วยเหตุผลและความจริง เครียดเรื่องความรักพอสมควร หรือว่าเราควรเป็นโสดไปตลอดไปดีหว่า

งานไม่เสร็จ
    รับงาน Freelance มาทำ เกี่ยวกับงานเขียน ActionScript ในแฟลช ตอนรับงาน อุส่าห์โอ้อวดคนจ้างว่า มีไม่เยอะ แล้วก็คงทำเสร็จได้ไว ตอนแรกคิดว่างานไม่เยอะ แต่จริงๆแล้วรับมาก็ทำไม่ทัน มัวแต่โอ้เอ้ แล้วก็มีส่วนมาจาก 2 ข้อที่ผ่านมาด้วย แล้วก็เครียดจนนึกอะไรไม่ออก รน งานไม่เสร็จแล้วก็ยิ่งเครียดเข้าไปอีก เห้อ เมื่อคืนต้องนั่งแท็กซี่ขึ้นทางด่วนไปคุยงาน 220 บาท เพราะรีบไป ไปคุยงานกัน ไม่กี่ประโยค แล้วกลับขากลับกลับรถไฟฟ้า 40 บาท แล้วนั่งรถเมล อีก 5 บาท อืมเสียเงิน 265 บาท ไปเพื่อทำให้เค้าอุ่นใจว่าตูจะเร่งทำให้เส็ดในเสาร์อาทิตย์นี้ ส่วนงานประจำก็มีส่วนที่ส่งให้ลูกค้าไปแล้ว แต่ดันเกิดบั้คมหาศาล ต้องมานั่งแก้อีกแล้ว ทั้งๆที่ปวดหัวอยู่

ไม่ได้นอน
    ตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว จนถึงศุกร์นี้ มีแค่คืนวันพฤหัส เพียงคืนเดียวที่ได้นอนหลับเต็มอิ่ม แต่ก็ตื่นมาทำงานสายเลย เพราะลืมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ มีอยู่วันหนึ่ง ได้หลับแค่ชั่วโมงเดียว อีกวันนึงก็หลับ 2-3 ชั่วโมง แต่จริงๆแล้วช่วงที่ไม่สบายก็หลับเต็มอิ่มตอนกลางวันมาทดแทน

เงินหมด
    เงินหมด ตอนแรกเหลือติดตัว ร้อยกว่าบาท แต่มีผู้หวังดีส่งเงินมาให้ยืม 500 แต่จ่ายแท็กซี่ไปซะ 265 บาท หมตูดอีกแล้ว จนกรอบๆ

  ปล.เวลามีคนเค้าทำนายดวง เค้ามักจะแบ่งหมวดหมู่ของดวง เป็น การเงิน การงาน ความรัก และสุขภาพ สงสัยสัปดาห์ที่ผ่านมานี่คงเป็นช่วงตกต่ำหมดทุกหมวดหมู่....

วันอาทิตย์, มีนาคม 13, 2548

สิ่งที่ยังทำไม่สำเร็จ

Title: "All About Love"
Artist: BrownBoen
Loading:

    ถ้าเป็นไปได้ ให้ฟังเพลงให้จบก่อนแล้วจะลองคิดดูเล่นๆหรือไม่ลองก็ได้ ว่าสัมผัสอะไรได้จากเพลงนี้ เสร็จแล้วจึงอ่านข้อความข้างล่าง....

    จากข้างบนเป็นเพลงบรรเลงที่แต่งเอง สำหรับคนที่ยังไม่ได้ยินเสียง ให้ดูที่แถบ Loading(สีส้ม) ว่าโหลดเต็มรึยัง ถ้าเป็นเน็ทไฮสปีด โหลดอย่างน้อย 1 นาที ถ้าเป็นเน็ท โมเด็มธรรมดา ก็ไม่น่าจะเกิน 5 นาที และขอย้ำอีกทีว่า ทุกอย่างของเมโลดี้นี้ในนี้แต่งขึ้นเอง (ถ้าใครดันคิดว่าทำนองมันเหมือนกะของคนอื่นหรือคิดว่าไปก็อบของใครมาก็ช่างหัวพ่อมึง...) ส่วนด้านเทคนิค ใช้โปรแกรม Cakewalk Sonar 2.0 โดยไม่ได้มีเครื่องดนตรีใดๆ แม้แต่อิเล็คโทนมาช่วย ใช้คอมพิวเตอร์ตัวเดียวเพียวๆทำ เพราะฉะนั้น จึงใช้เมาส์อีดิดเสียงขึ้นมาทีละตัวโน๊ต(อันไหนซ้ำกันก็ก็อบไปวาง)ส่วนวิธีอื่นที่ง่ายกว่านี้ ตูทำไม่เป็นหรือไม่มีทุนทรัพย์ ส่วนเรื่องวิธีการนำมาลง Blog ก็แปลงไฟล์เป็น mp3 เอามาลง flash แล้วก็ ลงไฟล์ html แล้วก็ ใช้Tag iframe เป็นตัวเรียกมาวางในบล็อกนี้ ก็เลยออกมาอีท่านี้
    ที่เล่าแบ็คกราวน์มาซะยืดยาวนี่ก็เพราะขออวดในความเก่งของตัวเองมั่ง ไม่ใช่เก่งเพราะทำได้ หรือทำดี แต่เก่งที่ไม่มีใครสอนตูเลย และในสิ่งแวดล้อมที่เติบโตมาไม่มีใครหรือสิ่งที่เป็นแรงจูงใจให้ทำเลย แต่ก็ต้องขอบคุณอาจารย์ 3 ท่านนี้ แม้ว่าสมัยเรียนตูจะอยู่คนละคณะกะอาจารย์ทั้ง 3 ท่านก็ตาม
        1.อ.นคร ผู้ที่สอนทฤษฎีดนตรีเบื้องต้น และวิชาร้องประสานเสียงในวิชาเลือกเสรี
        2.อ.โป้ง ที่สอนพื้นฐานการเล่นเปียโน และไว้ใจให้ตูอยู่ตามลำพังกะเปียโนหลายครั้ง
        3.อ.เต็ม ที่ให้คำตอบตูว่าโปรแกรมทำเพลงชื่อว่าโปรแกรมอะไร ถ้าไม่รู้ว่าโปรแกรมมันชื่ออะไร ตูคงไม่ได้ทำเพลงๆนี้
    แต่ก็...นะ ไม่ใช่มืออาชีพ ทำได้แค่นี้แหละ มันยังทะแม่งๆอยู่ เพลงนี้...มันก็ยังห่วย ในสายตามืออาชีพแหละ และเพลงนี้ยังเป็นเพลงดิบ ยังไม่ได้ปรับแต่งในเชิงละเอียดอ่อน ฟังแล้วจะดูแข็งๆ

    โอเค ขี้คุย ขี้โม้ ขี้อวดมามากละ เข้าเรื่องซะที (อ๊ะ...ยังไม่เข้าเรื่องอีกเรอะ)ตอนแรก เพลงนี้ตั้งใจแต่งมาเพื่อประกอบมิวสิกวิดีโอ ซึ่งวางแผนมาตั้งแต่ก่อนสิ้นปี เพื่อจะให้ใครบางคนได้เห็นความน่ารักของตัวการ์ตูน และรู้สึกดีไปกับการเริ่มต้นของคำว่ารัก เลยตั้งชื่อว่า "Begin Love" แต่ทำไปทำมา มันรู้สึกถึงความเติบโตของความรักอยู่ในเพลงนี้ด้วย สงสัยมันคงเพราะมีการเริ่มต้นต้องมีการเติบโตมั้ง เลยคิดจะเปลี่ยนชื่อเป็น "Growing Love" แต่ก็สองจิตสองใจอยู่ กะจะให้คนๆนั้นฟังตั้งแต่วาเลนไทน์ แต่...ส่วนของมิวสิกวิดีโอยังไม่เสร็จ จึงยังไม่ให้เค้า จริงๆแล้วยังไม่ได้ทำ เพราะเนื้อหาที่จะทำมันควรเกี่ยวข้องกับความเป็นจริง ฟังแล้วจะได้อินหน่อย แต่ความเป็นจริงหรอ...เครียด...ของแบบนี้ถ้าไม่มีความสุขสบายใจ มันทำออกมาไม่ได้ ไม่ใช่งาน ไม่ใช่ภาระที่ต้องทำ แต่เป็นสิ่งที่เราจะทำมันด้วยใจ
    แต่ในวันนี้น่ะหรอลองฟังเพลงนี้อีกที แล้วสัมผัสอะไรได้หลายๆอย่างในเพลงนี้ พอฟังแล้วสัมผัสได้ถึงความเหงา ความเศร้า การเริ่มต้นและการเติบโต ความสุข ความอบอุ่น ความอิ่มเอิบในใจ ความผิดหวัง และความสมหวัง เลยตั้งชื่อเพลงใหม่ว่า "All About Love" (ชื่อเห่ยสุดๆ) ส่วนใครฟังแล้วอาจจะคิดอย่างอื่นก็ได้นะ (บางคนอาจจะรู้สึก "เฉยๆ") แล้วแต่ทัศนคติของคน ซึ่งบอกแล้วตั้งแต่ต้นว่าให้ฟังเพลงให้จบก่อน แล้วก็ลองคิดว่าสัมผัสอะไรได้จากเพลงนี้ คิดเหมือนตูได้ แต่อย่ามาคิดเลียนแบบตู (แต่จริงๆแล้ว ไม่ว่าดนตรีหรืองานศิลปะ ไม่ควรจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะไม่ว่ายังไง ภาษามนุษย์ก็ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ตรงกับที่ใจเราสัมผัส)

    เพลงนี้กะจะให้เค้าได้ฟังเป็นคนแรก เพราะแต่งมาเพื่อเค้า แต่วันนี้ความรักมันถึงทางตัน แต่มีหลายๆสิ่งนอกจากสิ่งนี้ ที่ตูยังอยากจะทำเพื่อคนที่ตูรัก ที่เขียนบล็อกนี้ขึ้นมา เพื่ออยากสื่อให้ใครบางคนได้รู้ว่า แม้ตูจะอ่อนหัดทำอะไรเชื่องช้า ดีแต่พูด แต่ยังมีสิ่งที่ค้างคา และหวังต้องการที่จะทำหลายๆอย่าง แต่ยังทำไม่สำเร็จ... แล้วต้องมาถูกตัดสิทธิ์ที่จะทำ


(ส่วนนี้ เซ็นเซอร์ ไม่เหมาะไม่ดี)

วันอังคาร, มีนาคม 08, 2548

คู่กัน..

    แถวที่ๆอยู่นี่ มีกระรอกเยอะมาก หลังห้องพักก็มีกระรอก (จริงๆแล้วมันน่าจะเป็นกระแตนะ คิดว่า..)ที่ออฟฟิศ ก็มีกระรอกวิ่งผ่านข้างหน้า เมื่อ วานนี้มั้ง มันมาทีเดียวสองตัวแฮะ มากันเป็นคู่ ถ้ามีกล้องนะจะถ่ายให้ไอ้กระรอกกระจุยกระจายเลย

    พูดถึงกระรอก มาเป็นคู่ จึงนึกถึงนกเขา ไม่รู้ใครว่าใครจะรู้หรือเปล่าว่า ถ้าเราเห็นนกเขา(ถ้าไม่ได้อยู่ในกรง) จะพบว่านกเขาจะมากันเป็นคู่ ยากยิ่งที่จะเห็นนกเขา อยู่ตัวเดียวลำพัง หรือไม่ก็ไอ้คนเห็นมันตาเซ่อ และมันจะไม่มาเป็นฝูง ที่ตูรู้ว่านกเขามันหากินเป็นคู่ เพราะสังเกตเอามาหลายเดือนละ ไม่ได้อ้างอิงจากตำราใดๆทั้งสิ้น ลองสังเกตดูนะ จะพบความน่ารักของนกเขา และบางทีอาจอิฉามัน เพราะมันจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันซะเหลือเกิน แล้วลองนึกย้อนไปถึงไอ้คนที่มันเลี้ยงนกเขาไว้ในกรงเดี่ยวๆ ไม่รู้หรอกนะเค้าเล่นนกกันยังไง แต่คิดว่าที่นกดเขามันร้องดังเสียงกังวานไพเราะสดใสอยู่นั้น จริงๆแล้วมันคงร้องเพราะเหงาน่ะแหละ     มีวันนึง ไปเจอนกเขา 4 ตัว อยู่ด้วยกัน ไอ้ 4 ตัวนี่ มันน่าจะเป็นนกเขาสายพันธุ์สวิงกิ้ง....

  ปล.ว่าไปแล้ว พวกคนเล่นบล็อกนี่ ชอบถ่ายรูปกันเกือบทุกคน เหมือนมีพี่โอ กะ ไอ้บลิวเท่านั้นที่ไม่ถ่ายนะ เอาไว้หายจนก่อนนะ จะซื้อกล้องมาอวดรูปกะเค้าบ้าง

กล้าที่จะเปลี่ยน

    เปลี่ยนรูปโฉมใหม่ อาจจะแปลกตาไปบ้างแฮะ ออกแบบเว็บไม่เก่งวุ้ย อาจไม่สวย สำหรับใคร แต่ว่า ในเวลานี้ทำได้แค่นี้อ่ะ ตอนแรกกะจะเล่นแฟลช แต่ยังไม่มีเวลาแฮะ แต่ถ้าเล่นแฟลช มันก็จะขัดกะพื้นหลัง เอาเป็นว่าไม่เล่นๆๆ
    นอกจากเปลี่ยนบล็อกแล้ว..วันนี้เป็นวันที่กล้าตัดสินใจอะไรบางอย่างสำหรับใครบางคน เหงา แต่เด็ดเดี่ยว แม่งอ่อนแอมานาน แต่ก็นะ จริงๆแล้วอ่อนแออยู่ตลอดเวลาแหละ เมื่อก่อนก็แกล้งเก็กเท่ วางมาด แต่หลังๆนี้ ดูออดอ้อน ไปง้อเค้าซะเหลือเกิน คิดถึงเค้าแทบทุกลมหายใจเข้าออก เวลาเดินไปไหน ทุกก้าวเดินแต่ละก้าว ก็มีแต่เค้า คอยย้ำในใจเหมือนกับที่เท้าย่ำลงกับพื้น ทุกครั้งจะนอน ก็มีแต่ความนึกคิดมาทำให้เรากระวนกระวายใจอยู่นานกว่าจะข่มตาลง วินาทีแรกที่ตื่นลืมตา ก็มีแต่เค้าเข้ามาทักทายยามเช้า นี่เรารัก เราหลง หรือว่าเราบ้ากันแน่วะ โอยบ่นซะยาว ..สรุปคือ ตัดสินใจล่ะ ที่จะกลับไปเก็กเท่ วางมาดเหมือนเมื่อก่อนล่ะ จะได้ให้เวลาใครบางคน ได้คิดนึกหรืออาจจะตัดสินใจอะไรได้บ้าง
    แต่เหงาเหลือเกินว่ะ ถ้าเวรกำมีจริง ตูคงจะโทษเวรกรรม เพราะเมื่อก่อน เคยทำให้ใครต้องเจ็บ ต้องเหงามาแล้ว ถ้าคราวนี้มันเป็นกรรมตามสนอง พี่เวรกรรมเอ๋ย เอาเลย มาลงโทษตูได้เต็มที่ เอาเลย เอาให้สาแก่ใจ ถ้าพอใจแล้ว โปรดให้เค้าตัดสินใจมาเลือกเราด้วยเถิด

ปล.โอยตูต้องกลับไปเก็กเท่ให้ได้ เพราะตูมันเท่กว่าใครเป็นไหนๆ

วันอาทิตย์, มีนาคม 06, 2548

โมจิในตำนาน

     ตอนนี้นั่งกินโมจิรสช็อกโกแลตอยู่...ซื้อมาไม่ได้เอามาฝากใครเลยว่ะ แบบว่าขี้งก เลยนึกขึ้นได้ คราวนี้เราจะมาว่ากันในเรื่องเกี่ยวกะเรื่องโมจินครสวรรค์ละกันละกัน      แต่ก่อนจะว่าถึงโมจิ จะบอกว่า นครสวรรค์มีความมหัศจรรย์ 3 อย่างคือ
     1.เป็นจังหวัดที่ตูถือกำเนิด (โรงบาลสวรรค์ประชารักษ์)และ...ด้วย (???)
     2.เป็นจังหวัดที่ถิ่นฐานบ้านเกิดของเพื่อนอยู่ที่นั่น มากเป็นอันดับสอง รองจากจังหวัดตาก (ซึ่งตากนี่เป็นจังหวัดที่เติบโตมาจนจบมัธยม และแน่นอน ต้องมีเพื่อนอยู่ที่ตากมากที่สุด)
     3.เป็นจังหวัดที่ทำโมจิออกมาขายอย่างบ้าระห่ำ และตูก็ชอบโมจิมาก

     เอาล่ะ เรามาว่าเรื่องโมจิต่อได้ วันนี้จะมาจัดอันดับความอร่อยของโมจินครศวรรค์ 5 อันดับแรกกัน ถ้าอันไหนไม่ติดอันดับ แสดงว่าตูไม่เคยกิน หรือ ลืมนึกถึง (จัดอันดับของไส้ถั่วและไข่เค็มเท่านั้น)
     1.โมจิจันทร์สุวรรณ 99 คะแนน : หัวใจอยู่ที่แป้งโมจิ แป้งนุ่ม กลิ่นหอม แป้งและไส้ สมดุลกัน กล่องบรรจุดูมีมนต์ขลัง (แต่เป็นอดีตไปแล้ว เพราะเปลี่ยนดีไซน์ใหม่แล้ว) โมจิจันทร์สุวรรณ ถือได้ว่าเป็นโมจิในตำนานเลยทีเดียว
     2.โมจิแม่กุหลาบ(ลูกชาย) 80 คะแนน : ไม่ค่อยนุ่ม แต่รสชาติอร่อยดี กล่องบรรจุไม่สวย
     3.โมจิเอ็ม เอ็ม 75 คะแนน : แป้งและไส้สมดุลกัน แต่แป้งไม่ค่อยอร่อย ทำสะอาด และดูดี
     4.โมจิวัฒนพร 70 คะแนน : เป็นผู้ผลิตเจ้าแรกในประเทศไทย ไส้หวานไป และไส้เยอะเกิน ไม่ค่อยมีแป้ง
     5.1 โมจิร้านขนมอร่อย ต่ำกว่า 50 คะแนน : เหมือนเคยกินแล้วอร่อยสู้ 4 ข้อแรกไม่ได้ เลยไม่ค่อยซื้อยี่ห้อนี้กิน
     5.2 โมจิจุฬา ต่ำกว่า 50 คะแนน : เหมือนกับข้อ 5.1

     ส่วนเจ้าอื่นๆที่ไม่เอ่ยถึงคือ.. ลืมง่ะว่ามีเจ้านี้อยู่ ใครเคยกิน แล้วคิดอย่างไรกะโมจิ ก็เม้นมาได้ (จะมีสักกี่คนที่มาอ่านบล็อกนี้หว่า)

ปล.1 บล็อกอันที่แล้ว "การชอบใครรักใครมากๆ แล้วอาจทำให้คนอื่นไม่สบายได้" หมายถึง ไม่สบาย ไอค่อกๆ แค่กๆ จาม มีน้ำมูก ไม่ได้หมายถึง ไม่สบายใจ
ปล.2 อาจจะมี โมจิ episode 2 ตามมา ว่าด้วยรายละเอียดความอร่อยของโมจิ ถ้ามีโอกาส จะตระเวนไปซื้อมากินทุกเจ้าเลย

วันพุธ, มีนาคม 02, 2548

3 วันนี้ที่รอยคอย

วันนี้(นี่โพสท์ตอนเกือบตี 2) ตอนบ่ายๆ ต้องไปหาลูกค้ากะเจ้านาย ซึ่งลูกน้อง(ตู)กะเจ้านายจะไปคว้าเงินหลักแสนต้นๆมา หลังจากที่ตูต้องทนทรมานทรกรรมกะมัน งานชิ้นนี้แม่ง คิดว่าไม่ใจเลยว่ะ คิดว่ามันยังไม่เส็ด คิดว่ามันยังไม่คอมพลีส คิดว่ามันไม่เรียบร้อย แต่ก็ต้องจำใจคิดว่ามันเสร็จ เจ้านายเคยบอกว่า ถ้าไม่ปิดมัน เราจะเคว้งคว้าง ไม่รู้จะจบมันยังไง และถ้าไม่จบ ก็จะไม่ได้ตังค์เอามากินข้าวล่ะ ตูยังใหม่กะการทำงาน เลยคิดว่า การทำงานแบบนี้นี่มันกดดันว่ะ มันต้องทำอะไรหลายๆอย่างในสิ่งที่เราไม่ชอบใจ บางทีต้องแกล้งเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ในสิ่งที่เราไม่ชอบ เพราะจะทำให้งานเสร็จช้า แต่บางเรื่องสิ่งที่เราคิดว่าเจ้านายไม่ชอบ เราเลยแกล้งไม่ใส่ใจ แต่บางครั้งเจ้านายกลับเอาใจใส่กะมัน เพราะใจเรากับเจ้านายไม่ตรงกัน สรุปแล้ว เป็นลูกน้องเค้ามันต้องยอมรับความผิดที่เราไม่คิดว่ามันผิดให้ได้ อย่างน้อยก็เรื่องงาน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว 4 เดือนแล้ว กะโปรเจ็คนี้ เบื่อแล้วว่ะ อยากทำโปรเจ็คใหม่ อยากเรียนต่อให้จบ อยากเป็นแฟนกับ... สภาพชีวิต คงดีขึ้น พรุ่งนี้ ถึงกำหนดนัดส่งงาน Freelance อันนี้ยังไม่คืบหน้าแฮะ ก็ดันเล่นเล่นงานประจำซะดึก งานFreelanceจะทำทันได้ไง ทำไมหนอ ทุกอย่างต้องบรรจบใกล้ๆกัน ให้เรารนพร้อมๆกัน เอาวะ สู้ๆ มะรืนเป็นวัน.... ช่างแม่ง ไม่บอก บอกไม่ได้แฮะ ต้องปกปิดไว้น่ะ เอ้อ ... วันนี้รู้สึกผิดว่ะ การชอบใครรักใครมากๆ แล้วอาจทำให้คนอื่นไม่สบายได้ นี่รู้สึกผิดอย่างยิ่ง ปล. ยังฝันต่อไป เหนื่อยชิบหาย แอบท้อนิดๆ แต่ไม่คิดจะหยุด